เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 9 มีนาคม 2566 ขณะที่ ร.ต.อ.พชร รัตนวิชัย รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่อยู่บนโรงพัก รับแจ้งจากนางศิริรัตน์ ผาทอง ผญบ.ม.7 บ.หนองบัว ต.สามพร้าว ว่ามีเหตุคนร้ายย่องงัดหน้าต่างกุฏิเจ้าอาวาสวัดอรัญญเขต หรือวัดบ้านหนองบัว เข้าไปขโมยเงินสดในย่าม จำนวน 3 แสนบาท ที่ห่อด้วยผ้าขนหนูวางไว้บนเตียงนอน และกระปุกออมสินที่วางไว้ในตู้เก็บของ ที่อยู่ข้างเตียง ภายในมีเงินเหรียญประมาณ 2 พันบาท จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.ธนวัฒน์ สรวงศิริ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ตำรวจชุดสืบสวน และตำรวจชุมชนตำบลสามพร้าว
ที่เกิดเหตุเป็นกุฎี 2 ชั้น ครึ่งปูนไม้ พบกรรมการวัด ผู้นำชุมชน และชาวบ้านที่ทราบข่าวพากันมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น พบพระสัมฤทธิ์ จันทาโภ อายุ 69 ปี เจ้าอาวาส นำตำรวจตรวจสอบภายในกุฏิชั้นล่าง ที่ใช้สำหรับนอน พร้อมกับชี้จุดที่วางย่ามที่เก็บเงินไว้วางบนหัวเตียงนอน และกระปุกออมสินที่วางอยู่ในตู้เก็บของไป ตรวจสอบบริเวณหน้าต่างไม้ด้านหลังกุฎี พบร่องรอยคนร้ายใช้เสียมของวัดงัดกลอนจนพังเสียหาย ก่อนนำขาวางพวงหรีดใช้ปีนข้ามหิ้งพระเก่า ที่ทำติดกับวงกบหน้าต่างก้าวข้ามเข้าไปก่อเหตุ ขณะพระเจ้าอาวาสนอนหลับลึกจากฤทธิ์ของยารักษาอาการอาพาธ จึงทำให้ไม่รู้สึกตัว
สอบสวนพระสัมฤทธิ์ จันทาโภ เจ้าอาวาส ให้การว่า บวชมาได้ 23 พรรษา และรับตำแหน่งเจ้าอาวาสมาได้ 2 ปี ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้ เคยได้ยินและเห็นแต่ในข่าวว่าพระภิกษุโดนคนร้ายงัดกุฎีลักทรัพย์สิน ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไป เป็นเงินส่วนตัวที่ญาติโยมนำมาถวายทำบุญ และได้ไปเบิกเงินออกมาจากธนาคารหลังมีอาการอาพาธ เพื่อเตรียมไว้รักษาอาการป่วยกล้ามเนื้ออ่อนแรง จากเส้นเลือดในสมองตีบ จนไม่สามารถออกเดินบินฑบาตรตามกิจของสงฆ์ จะห่อเงินและมัดด้วยผ้าขนหนูซุกไว้ในย่าม วางไว้ข้างเตียงนอน เมื่อวานเงินก็ยังอยู่ปกติ แต่เช้าวันนี้ถูกคนร้ายงัดหน้าต่างเข้ามาขโมยเอาไปจนหมดแล้ว จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านช่วยโทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ สาเหตุที่ทำให้อาตมาไม่รู้สึกตัว อาจจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ต้องกินทุกวันก่อนนอน และอยากฝากถึงโจรว่า อย่าสร้างเวรสร้างกรรมเลย เงินที่ขโมยเอาไป ก็เป็นเงินที่ญาติโยมเอามาถวายทำบุญ และเป็นเงินที่จำเป็นต้องใช้รักษาตัว มันเป็นบาปกรรมหนักที่มาขโมยเงินพระไป หากนำมาคืนก็จะให้อภัย เพราะพระไม่มีรัก โลภ โกรธ หลง อยู่แล้ว ใครทำอย่างไรก็รับไปตามกรรมที่ตัวเองกระทำ และอยากให้ตำรวจช่วยติดตามจับกุมคนร้ายและเงินที่ขโมยไปกลับคืนมาให้ด้วย
ด้านตำรวจในเบื้องต้นสันนิฐานว่า คนร้ายก่อเหตุตามลำพังช่วงกลางดึกที่ผ่านมา และรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าอาวาสว่าเก็บเงินสดไว้ในกุฎี และคาดว่าเป็นฝีมือวัยรุ่นติดยาในหมู่บ้าน หรือตามหมู่บ้านใกล้เคียง อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ทางตำรวจชุดสืบสวน จะได้สืบสวนสวนสอบสวนหาข่าวจากชาวบ้าน และตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทาง เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
